
ในยุคปัจจุบันที่เป็นยุคดิจิทัลนี้ การทำการตลาดและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางออนไลน์ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อทุกธุรกิจต้องการแย่งชิงพื้นที่สื่อบนโลกโซเชียล การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและตรงใจกลุ่มเป้าหมาย จึงกลายเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจ
ซึ่งถ้าคุณอยากจะปั้นแบรนด์ให้ดังใน Social Media เพื่อมัดใจลูกค้า จะไม่รู้จักสิ่งนี้ไม่ได้! นั่นก็คือกลยุทธ์ Content Pillar หรือ "เสาหลักคอนเทนต์" ซึ่งเปรียบเสมือนเข็มทิศนำทาง ช่วยให้คุณสามารถจัดระเบียบหัวข้อคอนเทนต์ พัฒนาเนื้อหาที่ตรงประเด็น ดึงดูดผู้เข้าชม และบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้นั่นเอง
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ Content Pillar ว่าคืออะไร พร้อมเจาะลึกวิธีการสร้าง และตัวอย่างการประยุกต์ใช้จาก Oho Chat แบบเข้าใจง่าย เพื่อให้แบรนด์ของคุณสามารถสร้างคอนเทนต์ได้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย พร้อมเปิดประตูสู่หัวใจลูกค้าหลังอ่านบทความจบ!
Content Pillar หรือ "เสาหลักคอนเทนต์" คือ เป็นกลยุทธ์การสร้างหัวข้อของคอนเทนต์หรือหมวดหมู่คอนเทนต์ที่ใช้เป็นแนวทางในการสร้างและจัดการคอนเทนต์เพื่อการตลาดดิจิทัล เปรียบเสมือนหัวข้อหลักกว้าง ๆ ที่ครอบคลุมเนื้อหาคอนเทนต์ของเรา ใช้ได้กับคอนเทนต์ทุกประเภท โดยมีจุดประสงค์เพื่อกำหนดเนื้อหาคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์และเป้าหมายของแบรนด์
ปัญหาที่เห็นได้ชัดก็คือ หลายแบรนด์ในปัจจุบันโดยเฉพาะแบรนด์ขนาดเล็ก ยังคงทำการตลาดแบบขอไปทีอยู่ ทำคอนเทนต์ไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีกลยุทธ์ (Strategy) หรือการวางแผนหัวข้อที่ชัดเจน การใช้ Content Pillar จึงสามารถช่วยคุณได้ เพราะเมื่อเราทราบว่าคอนเทนต์ที่กำลังจะทำอยู่ใน Content Pillar ชนิดไหน ก็จะช่วยให้สามารถรวางแผนเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
ก่อนอื่น ธุรกิจจำเป็นต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างถ่องแท้ให้ได้เสียก่อน หาให้เจอว่าคุณต้องการทำคอนเทนต์เพื่อใคร คนแบบไหนคือคนที่จะมาดูเนื้อหาของคุณ
โดยสามารถทำได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลประชากร พฤติกรรม ความสนใจ ความต้องการ และจุดปวด (Pain Point) ของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะใช้ข้อมูลที่คุณมีอยู่แล้ว หรือหาข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ เช่น การทำแบบสอบถาม การสัมภาษณ์ ใช้เว็บไซต์วิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย ฯลฯ ก็ได้เช่นกัน จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาสร้าง การจำลองตัวตนลูกค้า (User Persona) เพื่อให้เข้าใจลักษณะของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นนั่นเอง
ทุกธุรกิจจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายในการทำคอนเทนต์ที่ชัดเจน เพราะเป้าหมายเหล่านี้จะช่วยนำทางธุรกิจไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง เราจะแบ่งเป้าหมายออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
การวิเคราะห์คู่แข่งคือการศึกษาคู่ต่อสู้ โดยเริ่มจากทำการระบุคู่แข่งหลัก ศึกษาว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันมีรายใดบ้าง และคู่แข่งเหล่านั้นจุดแข็ง จุดอ่อน กลยุทธ์ และลักษณะคอนเทนต์เป็นอย่างไร การวิเคราะห์นี้ถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากในการทำคอนเทนต์ เพราะจะช่วยให้เรานำข้อมูลมาพัฒนากลยุทธ์ที่เหนือกว่าได้
และแล้วก็มาถึงขั้นตอนสำคัญ คือการร่วมมือกันระเบิดไอเดียเพื่อหา Content Pillar ที่ดีที่สุดเพื่อนำมาใช้งานจริงนั่นเอง โดยหัวข้อของ Content Pillar ที่กำหนดขึ้นควรสอดคล้องไปกับเป้าหมายหลักและเป้าหมายย่อยที่เราตั้งไว้ด้วย ในการระดมสมอง (Brainstorming) สามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น
เมื่อได้ไอเดียหัวข้อของเสาหลัก Content Pillar เรียบร้อยแล้วให้เราทำการเลือกหัวข้อที่ต้องการนำมาใช้ได้เลย
เสาหลักเนื้อหาที่มุ่งเน้นคอนเทนต์ให้ความรู้แก่ผู้บริโภค นำเสนอสิ่งที่ผู้ชมไม่ทราบมาก่อน สำหรับ Oho Chat เรามุ่งเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับการตลาดดิจิทัล และการพัฒนาธุรกิจยุคใหม่ คอนเทนต์ในเสาหลักนี้ส่วนใหญ่จะเป็น Evergreen Content ที่สามารถสร้างการรับรู้ (Awareness) ได้ในระยะยาว
ตัวอย่างคอนเทนต์ เช่น ทำไม SMEs ไทยต้องให้ความสำคัญกับ CRM, Value Proposition คืออะไร, ระบบ IVR (Interactive Voice Response) คืออะไร? คล้ายกับแชทบอทตรงไหน?
เสาหลักเนื้อหามุ่งเน้นคอนเทนต์ที่สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ผ่านการศึกษา Persona ของเป้าหมาย แล้วใช้จุดปวด (Pain Point) ของลูกค้ามาดึงดูดความสนใจ คอนเทนต์ในเสาหลักนี้จะช่วยเพิ่ม การรับรู้ (Awareness) + จำนวนคนเข้าชมเว็ปไซต์ (Traffic) ได้
ตัวอย่างคอนเทนต์ เช่น คุณเป็นเมเนเจอร์ที่คุมลูกน้องไม่อยู่หรือเปล่า ใช้โอ้โหแชทช่วยวัดผลได้!, How to ตอบแชทให้เร็วขึ้น สำหรับธุรกิจที่ปิดการขายผ่านแชท, เคยไหม? หาลูกค้ามาแทบตายตกม้าตายที่แอดมิน
เสาหลักเนื้อหามุ่งเน้นคอนเทนต์ที่ช่วยเพิ่มอัตราการตัดสินใจให้ลูกค้าใหม่ ผ่านการนำเสนอความสำเร็จของลูกค้าเก่า ให้ผู้อ่านรู้สึกว่าถ้าเขาใช้แล้วจะเกิดประโยชน์เหมือนข้อมูลที่เรานำเสนอ
ตัวอย่างคอนเทนต์ เช่น การนำเสนอ Case Study ของลูกค้าที่มาใช้บริการเรา, Oho Chat x วิถีชาวเกาะ ลูกค้าทักมาวันละพันแชทจัดการหลังบ้านอย่างไร?, Oho Chat x Fastship เมื่อโอ้โหแชทเปิด API เชื่อมได้ทุกระบบที่คุณต้องการ
เสาหลักเนื้อหามุ่งเน้นคอนเทนต์ที่นำเสนอฟีเจอร์ คุณสมบัติ หรือเป็นการอัปเดตผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของแบรนด์ให้ผู้อ่านรับรู้
ตัวอย่างคอนเทนต์ เช่น สรุปฟีเจอร์ใหม่ Oho Chat ประจำปี 2023 ระบบจัดการแชท ต้องโอ้โหแชท, ฟีเจอร์คลังสื่อ คลังคำตอบ Oho Chat ทำงานอย่างไร?, การใช้ Oho Chat เชื่อมต่อ Contact กับระบบ CRM ภายนอก เช่น Zoho Salesforce ฯลฯ
เสาหลักเนื้อหามุ่งเน้นคอนเทนต์ที่สร้างการรับรู้และเพิ่มความน่าเชื่อถือแก่แบรนด์ สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านรู้สึกอยากทำตาม ทำได้โดยการนำบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือมาเป็นผู้นำเสนอ
ตัวอย่างคอนเทนต์ เช่น การให้ CEO มาเป็นผู้บรรยายเกี่ยวกับวิธีประสบการณ์ลูกค้า, เจาะลึกกลยุทธ์ H.E.A.R.D ที่ Disney ใช้ในการรับมือกับลูกค้าที่ไม่พอใจในการบริการ
เสาหลักเนื้อหามุ่งเน้นคอนเทนต์ที่อ้างอิงและสอดคล้องกับกระแสสถานการณ์ ณ ตอนนั้น เน้นสิ่งที่เป็นกระแสชั่วคราว ต้องทำคอนเทนต์ให้เร็วเพื่อเกาะกระแส
ตัวอย่างคอนเทนต์ เช่น อยากขายดีช่วงโควิด-19 ทำอย่างไรดี, เฉาก๊วยกินแล้วคันแต่โอ้โหแชทใช้แล้วสบายตัวแน่นอน
เสาหลักเนื้อหามุ่งเน้นคอนเทนต์ที่อ้างอิงและสอดคล้องกับเทศกาล ณ ตอนนั้น
ตัวอย่างคอนเทนต์ เช่น วันลอยกระทง ไม่มีแอดมินตอบแชทโอ้โหช่วยได้!, สงกรานต์นี้ยิงแอดฉ่ำไม่บ้งถ้าใช้การวิเคราะห์ข้อมูลจากโอ้โหแชท, ปีใหม่หยุดยาวนี้ ใช้แชทบอทช่วยตอบ ลูกค้าไม่หลุดมือแน่นอน
เสาหลักเนื้อหามุ่งเน้นคอนเทนต์ที่แสดงให้เห็นถึงการทำงานเบื้องหลัง การผลิต หรือกระบวนการทำงานของธุรกิจ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย
ตัวอย่างคอนเทนต์ เช่น พาไปดูเบื้องหลังของทีมดูแลลูกค้าที่ Oho Chat, เปิดหลังบ้านส่องเบื้องหลังความสำเร็จ
เมื่อเรามีหัวข้อ Content Pillar ที่ดีแล้ว สิ่งต่อไปคือการนำมาใช้จริง ไปเริ่มกันเลย
หากเปรียบธุรกิจเป็นบ้าน หัวข้อเสาหลัก Content Pillar คงเปรียบเสมือนห้องแต่ละห้อง หากต้องการสร้างบ้านที่ดีการกำหนดสัดส่วนของห้องแต่ละประเภทก็เป็นสิ่งสำคัญใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้น เราจะต้องทำการแบ่งสัดส่วนของเสาหลัก Content Pillar ว่าต้องการจะทำคอนเทต์แต่ละหัวข้อในสัดส่วนเท่าไหร่บ้าง จะลงคอนเทนต์แต่ละหัวข้อกี่ครั้งต่อเดือน จากนั้นดำเนินงานสร้างคอนเทนต์ตามสัดส่วนหัวข้อที่วางไว้
เมื่อทำคอนเทนต์ตามสัดส่วน Content Pillar ที่วางไว้แล้วอย่าลืมติดตามผลการทำงาน เพื่อดูว่าคอนเทนต์ที่เรานำเสนอไปได้ผลดีหรือไม่ จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงพัฒนาหัวข้อหรือสัดส่วน Content Pillar ที่มีอยู่ เพียงเท่านี้แบรนด์ของคุณก็จะสามารถสร้างคอนเทนต์ที่มัดใจลูกค้าได้แล้ว!
หากคุณคิดที่จะนำกลยุทธ์ Content Pillar ไปใช้แล้วละก็ สิ่งหนึ่งที่ควรทำควบคู่กันคือการเตรียมระบบหลังบ้านให้ดี! เพราะเมื่อมีคอนเทนต์ที่ดี แน่นอนว่าลูกค้าทักแชทเข้ามาอย่างถล่มทลาย แต่ถ้าวางระบบหลังบ้านไม่ดี จัดการระบบแชทไม่ได้เรื่อง ลูกค้าที่หามาได้ก็ต้องหลุดมือไปอย่างแน่นอน
ดังนั้น เราขอแนะนำ Oho Chat ระบบจัดการแชทบริการลูกค้าพัฒนาโดยคนไทย รวบรวมแชทบริการลูกค้าและพัฒนาทีมแอดมินครบจบในที่เดียว เรามีฟังก์ชั่นมากมายที่จะช่วยยกระดับการตอบแชทของคุณ พร้อมสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดี เช่น
และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่จะช่วยให้การแชทคุยกับลูกค้าเป็นเรื่องง่าย แชทจะเยอะแค่ไหนก็เอาอยู่ สร้างความประทับใจแก่ประสบการณ์ลูกค้าในทุก ๆ ขั้นตอน
>> สนใจ คลิก เพื่อทดลองใช้ฟรี 14 วัน สมัครง่าย ไม่ต้องทักแชท ไม่ต้องผูกบัตรเครดิต แถมยังสามารถเพิ่มจำนวนแอดมินได้ไม่จำกัด!
หรือหากคุณใช้ระบบอื่นที่ไม่ตอบโจทย์อยู่ เราก็มี โปรย้ายค่าย พร้อมให้คุณย้ายมาใช้ Oho Chat ได้เลยตอนนี้! อย่ารอให้ธุรกิจอื่นแซงหน้าคุณ ทดลองใช้ฟรีเลย