รวมศัพท์ที่ทีมขายต้องรู้!
ทีมขายมือโปรต้องรู้! รวมศัพท์สำหรับทีมขายสำหรับการทำงาน
spcharistree

รวมศัพท์เกี่ยวกับเอกสารที่ทีมขายมือโปรต้องรู้

เคยเป็นเหมือนกันไหมคะเวลาที่เราต้องประสานงานหรือเจรจาธุรกิจกับ partner ของธุรกิจส่วนใหญ่เรามักจะได้ติดต่อสื่อสารกับทีมเซล และพวกเขามักจะมีศัพท์เฉพาะที่ทำให้เราเกิความสับสนจนนำไปสู่การสื่อสารที่ผิดพลาดในบางครั้ง วันนี้เราจะมานำเสนอ 20คำศัพท์ที่ทีมเซลมักจะใช้ในการสื่อสาร เพื่อเป็นไอเดียสำหรับใครที่กำลังมีแผนจะย้ายสายงานหรือจำเป็นต้องประสานงานกับทีมขายบ่อยๆลองนำศัพท์เหล่านี้ไปใช้เพื่อเพิ่มความเป็นมือโปรกันค่ะ โดยในทั้งหมดคำศัพท์จะถูกแบ่งออกเป็น 2 หมวด

รวมศัพท์เกี่ยวกับเอกสารที่ทีมขายมือโปรต้องรู้

  1. Quotation หรือ ใบเสนอราคา ถือเป็นขั้นตอนแรกของการขายหลังจากเซลได้ทำความรู้จักและแนะนำสินค้าให้ลูกค้าได้รู้จัก ซึ่งใบเสนอราคาจะถือว่าอยู่ในขั้นตอนการเจรจาระหว่างฝ่ายขายและลูกค้าเพื่อหาเงื่อนไขและราคาที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจ
  2. PO (Purchasing order) หรือ ใบสั่งซื้อที่จะถูกเปิดจากฝั่งลูกค้าเพื่อสั่งซื้อสินค้าของเรา
  3. ใบส่งของชั่วคราว เอกสารนี้จะเกิดขึ้นในกรณีที่ฝ่ายขายและลูกค้าได้ตกลงการซื้อขายกันเป็นสินค้าฝากขาย เอกสารนี้จะมีขึ้นเพื่อแจ้งให้ทั้งสองฝั่งทราบถึงจำนวนสินค้าที่ถูกส่งออกไปแต่ไม่ใช่จำนวนสินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อ
  4. PA Stock (พาสต็อก) คือเอกสารที่ยืนยันยอดขายที่ทางลูกค้าได้ทำการขายออกไปจากจำนวนสินค้าที่ถูกส่งเป็นสินค้าฝากขาย
  5. เอกสารวางบิล คือเอกสารสำหรับชี้แจงรายละเอียดคำสั่งซื้อให้ลูกค้าทราบ โดยส่วนใหญ่ในใบวางบิลจะมีรายละเอียดของการสั่งและการชำระเงินเช่น เครดิต 30วัน หมายถึงต้องชำระภายในสามสิบวันหลังจากได้รับสินค้า หรือแม้แต่โปรโมชั่นที่ลูกค้าได้รับอยู่รวมถึงเลขเอกสารใบสั่งซื้อซึ่งส่วนใหญ่ตัวเลขเอกสารมักจะมาจากปี เดือนและจำนวนใบสั่งซื้อที่ถูกสั่งไว้ในเดือนนั้นๆ
  6. Invoice หรือ ใบเสร็จ คือเอกสารที่ลูกค้าจะได้รับหลังจากที่ชำระเงินแล้ว ไม่เพียงแค่เพื่อเป็นการยืนยันการชำระเงินแต่ยังคงเป็นเอกสารสำคัญที่ทั้งสองบริษัทจำเป็นต้องเก็บรักษาเพื่อขั้นตอนการเสียภาษีเช่นกัน

ศัพท์ในวิเคราะห์ยอดขายและกลุ่มลูกค้าของทีมขายมือทอง

  1. Customer Segmentation คือ การแบ่งกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าออกเป็นกลุ่มย่อยๆ โดยเลือกเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่มีความใกล้เคียงกันอยู่กลุ่มเดียวกัน ช่วยให้สามารถนำข้อมูลตรงนี้ไปวางแผนกลยุทธ์การขายและทำการตลาดต่างๆได้ง่ายมากขึ้น
  2. Lead คือ ผู้ที่มีแนวโน้มสนใจสินค้าและบริการของธุรกิจ แต่ว่ายังไม่ตัดสินใจซื้อ ยังไม่ถือว่าเป็นลูกค้า
  3. Lead Generation คือ กระบวนการในการสร้างกลุ่มผู้ที่มีแนวโน้มจะสนใจในสินค้าหรือบริการ
  4. Lead Scoring คือ กระบวนการจัดอันดับผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าเพื่อให้ทีมขายง่ายต่อการนำมาพิจรณาว่ากลุ่มลูกค้าไหนควรให้ความสนใจเป็นกลุ่มแรกและใช้เวลาในการปิดขายได้ไวที่สุด
  5. Sales forcast  คือ การคาดการณ์หรือประมาณการจำนวน หรือ มูลค่าของสินค้าและบริการที่บริษัทจะขายได้ โดยมีหลักการคาดการณ์หรือคาดคะเนเช่น คำนวณจากผลการสำรวจตลาด จำนวนประชากรที่เป็นเป้าหมายของสินค้าและบริการของบริษัท ความคิดเห็นของบุคคลต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกบริษัท
  6. Warm Leads คือ ผู้ที่สนใจสินค้าและบริการแต่ยังไม่มีการตัดสินใจซื้อ ซึ่งกลุ่มคนประเภทนี้จะมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจมากกว่าประเภท Cold Lead แต่จำเป็นต้องรู้ข้อมูลที่มากขึ้นเพื่อการตัดสินใจซื้อ ดังนั้นพนักงานขายจึงควรให้ความสำคัญกับกลุ่มนี้เป็นอันดับแรกๆ เพื่อที่จะสามารถปิดการขายได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
  7. Cold Leads คือ ผู้ที่ยังไม่มีความพร้อมในการซื้อ พนักงานขายปิดการขายได้ค่อนข้างยากอาจมีโอกาสเป็นเปลี่ยนลูกค้าที่แท้จริงได้แต่ต้องใช้เวลานานจนกว่าลูกค้าจะสนใจและตัดสินใจซื้อ
  8. Inbound Leads คือ กลุ่มคนที่สนใจในสินค้าและบริการและมีความต้องการอยู่แล้วเบื้องต้นเพียงแต่ต้องการข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับการตัดสินใจซื้อ
  9. Outbound Leads คือกลุ่มคนที่ได้มาจากกลยุทธ์การขายเชิงรุก ซึ่งได้มาโดยผ่านกระบวนการขายแบบ Outbound Sales ได้รับการติดต่อจากพนักงานขายโดยตรงจนเกิดความสนใจในสินค้าบริการ
  10. Inbound Sales คือ กระบวนการขายในลักษณะของการดึงดูดลูกค้าจากการทำการตลาดของแบรนด์จนดึงดูดลูกค้าให้รู้จักจนเกิดความสนใจในสินค้าหรือบริการจนเกิดการติดต่อเข้ามา
  11. Outbound Sales คือ กระบวนการการขายในลักษณะเน้นให้พนักงานขายหรือทีมขาย มีส่วนร่วมหรือกิจกรรม อย่างใดอย่างหนึ่งกับกลุ่มเป้าหมายให้กลุ่มลูกค้าในอนาคตมีความรู้สึกไว้ใจ ใกล้ชิด และเชื่อถือในแบรนด์สินค้าเช่น การออกไปพบลูกค้า เพื่อนำเสนอขายสินค้าโดยตรงหรือการไปทำความรู้จักก่อนนำเสนอสินค้าเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
  12. Customer Relationship Management (CRM) คือการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าของธุรกิจเกิดความพึงพอใจสูงสุดในสินค้าและบริการ จนเกิดเป็นความภักดีต่อองค์กร
  13. Sales pipeline คือการวิเคราะห์ยอดการปิดการขายของทีมและแนวทางการทำให้เป็นไปตามที่คาดคะเน
  14. End user คือกลุ่มผู้บริโภคที่ได้ใช้ประโยชน์จากสินค้าหรือบริการของแบรนด์โดยตรง

เชื่อว่าหลายๆคนคงได้ศัพท์เอาไปใช้เพิ่มเติมใช่มั้ยคะ ความจริงแล้วนอกเหนือจากศัพท์แล้วการอัพเดตเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่จะช่วยการทำงานก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน สำหรับทีมขายหรือใครที่กำลังมองหาตัวช่วยจัดการระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเราขอแนะนำ Oho Chat ระบบรวบรวมแชทครบจบในที่เดียวที่ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ทีมขายทำงานได้ง่ายขึ้นผ่านการติดแท็กลูกค้าเพื่อแยกให้มั่นใจว่าลูกค้าท่านใดกำลังอยู่ในขั้นตอนไหนของการขาย โอ้โหแชทยังคงช่วยให้การทำงานของฝ่ายอื่นๆง่ายขึ้นได้ผ่านการส่งแชทพร้อมติดโน๊ตเพื่อให้คนที่ได้รับแชทเห็นถึงปัญหาที่พวกเขาต้องแก้ด้วยเช่นกัน

สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักโอ้โหแชทเพิ่มเติมสามารถอ่านบทความเกี่ยวกับระบบของเราได้เพียงคลิกลิ้งค์ด้านล่างนี้

ขั้นตอนง่ายๆในการ ปิดการขายด้วยโอ้โหแชท

ตอบคอมเมนต์ดึงเข้า Inbox อัตโนมัติ กับโอ้โหแชท หมดปัญหาคอมเมนต์ตกหล่น

เมื่อศูนย์ทนายสิทธิฯร่วมกับ Oho Chat พัฒนาแชทบอทให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายทางการเมือง

ตัวช่วยธุรกิจ ระบบCRM Omnichannel
พร้อมแล้ว เริ่มใช้งานฟรี!
ทดลองใช้ฟรี คลิก!
เชื่อมต่อเพจของคุณฟรีทันที!