มัดรวมคำศัพท์ที่ทีมการตลาดต้องรู้
พาเจาะลึกคำศัพท์ที่ชาวการตลาดทั้งมือใหม่หรือมือเก๋าต้องรู้ไว้ ไม่งั้นคุยกับทีมอื่นไม่รู้เรื่อง
spcharistree

มัดรวมคำศัพท์ที่ทีมการตลาดต้องรู้



จากรอบที่แล้วเราพาไปทำความรู้จักกับรวมคำศัพท์ที่ชาวทีมขายต้องรู้ใช่มั้ยคะ รอบนี้โอ้โหแชทได้รวบรวมคำศัพท์ที่ชาวการตลาดต้องรู้มาให้เป็นไอเดียสำหรับใครที่กำลังวางแผนจะย้ายสายงาน รวมถึงให้ชาวนักการตลาดเองได้อัพเดตเทรนด์ด้วยเช่นกันค่ะ

ในปัจจุบันนักการตลาดถูกแบ่งออกเป็นหลายๆด้านมากๆ หน้าที่ของนักการตลาดไม่ได้มีเพียงแค่วิเคราะห์ตัวเลขหรือสร้างชื่อเสียงของแบรนด์เพียงอย่างเดียว เราได้รวบรวม 21คำศัพท์ เกี่ยวกับเครื่องมือและตัวชี้วัดต่างๆ รวมถึงอีก 3 คำศัพท์สำหรับนักการตลาดสายอินฟลูเอ็นเซอร์ ที่จะช่วยทำให้นักการตลาดทำงานได้ง่ายขึ้น

20คำศัพท์เกี่ยวกับเครื่องมือและตัวชี้วัดต่างๆที่นักการตลาดจำเป็นต้องรู้สำหรับการทำงาน

  1. Customer Journey หรือ เส้นทางของผู้บริโภค สามรถเริ่มต้นได้ตั้งแต่การรับรู้ของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ไปจนถึงการเป็นลูกค้าได้เลยค่ะ
  2. Customer Relationship Management หรือ CRM  คือการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยระบบนี้จะเก็บข้อมูลที่ช่วยส่งเสริมการขายและการจัดการความสัมพันธ์ของลูกค้า มักเป็นระบบ Software หลากหลายรูปแบบ ทำมาแก้ปัญหาเรื่องการบริการลูกหรือส่งเสริม Customer Experience เป็นหลัก
  3. User Generated Content หรือ UGC คือการตลาดที่เน้นในส่วนของคอนเทนต์ที่จัดทำโดยผู้บริโภคเอง มักเป็นกลุ่ม Nano influencer แบบที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย อาศัยความโดดเด่นของแบรนด์ให้คนบอกต่อๆ กัน ในปัจจุบันเป็นวิธีที่ได้ผลลัพท์ค่อนข้างสูงเพราะผู้บริโภคในยุคปัจจุบันเชื่อคนที่ใช้งานจริงมากกว่า Influencer เจ้าใหญ่
  4. Benchmarking คือการเปรียบเทียบสินค้า บริการ หรือแคมเปญกับแบรนด์อื่นที่อยู่ในอุตสหกรรมเดียวกันเพื่อหาแนวทางพัฒนาแบรนด์ของตัวเองให้ดีขึ้น
  5. Search Engine Optimization หรือ SEO คือ การพัฒนาไซต์ให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสในการรติดอันดับบน Google นอกจากจะเพิ่มความหน้าชื่อถือของแบรนด์แล้วยังเป็นโอกาสการสร้างลูกค้าใหม่ได้เพิ่มขึ้น
  6. Pay Per Click หรือ PPC คือ การซื้อโฆษณาบนหน้าผลการค้นหาของ Search Engine เช่น Google Ads ผ่านการการประมูล Keyword เพื่อให้แสดงในหน้าแรกของเว็บไซต์ โดยจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเมื่อมีการคลิกเข้าไป
  7. Marketing Automation คือการตลาดที่ถูกตั้งค่าล่วงหน้า ให้มีการเริ่มทำงานแบบอัตโนมัติด้วยการใช้โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ โดยสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าทำให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดมากขึ้น
  8. A/B Testing คือ กระบวนการทาง User Experience ที่จะช่วยทดสอบว่าว่าสิ่งไหนจะช่วยให้ผู้ใช้งานเกิดประสบการณ์การใช้งานที่ดีมากกว่า และมีโอกาสจะได้รับ Conversion ที่มากกว่า
  9. Conversion Rate คือ อัตราการเข้าชมเนื้อหาในเว็บไซต์ที่เปรียบเป็นจำนวนผู้ที่สนใจในสินค้าหรือบริการ
  10. Conversion Tracking คือ วิธีที่สามรถตรวจสอบผลการตลาดช่องทางออนไลน์ต่างๆที่ทางแบรนด์ได้ทำไว้
  11. Lead Generation คือ กระบวนการที่สามรถดึงดูดให้คนสนใจสินค้าและบริการของ และทำให้เขาตัดสินใจซื้อในที่สุด
  12. Marketing Dashboards คือ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการทำการตลาดออนไลน์ไว้ในที่เดียว เพื่อความง่ายต่อการจัดเก็บหรือนำมาวิเคราะห์ในอนาคต
  13. Target Audience คือ กลุ่มเป้าหมายที่นักการตลาดได้ประเมิณว่าใครคือกลุ่มที่มีความสนใจในสื่อหรือการนำเสนอสินค้าและบริการของแบรนด์
  14. Value Proposition คือ คุณค่าของสินค้าหรือบริการที่ทางแบรนดต้องการสื่อไปถึงผู้บริโภค ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการตลาด โดยใช้วิธีการนำเสนอถึงคุณค่ามากกว่ามูลค่า
  15. SWOT Analysis คือ เครื่องมือในการประเมินสถานการณ์ ทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน ทั้งภายนอกและภายในองค์กร
  16. Return on Investment หรือ ROI  คือ วิธีการคำนวณอัตตราการวัดผลตอบแทนจากการลงทุน การลงทุนที่ดี ROI ควรสูง เพราะนั่นหมายถึงการที่เราสามารถได้รับใช้เงินลงทุนน้อยแต่ได้ผลลัพธ์มากนั่นเอง
  17. Brand Identity คือ อัตลักษณ์แบรนด์ของทางแบรนด์ที่ต้องการจะนำเสนอสู่ผู้บริโภค บางครั้งเรามักจะใช้กลยุธ Storytelling ในการเล่าเรื่องเพื่อเพิ่มความหน้าเชื่อถือ
  18. User-Generated Content หรือ UGC คือ  คอนเท้นต์ที่ถูกสร้างด้วยผู้ใช้งาน หรือลูกค้าตัวจริง ไม่ใช่การถูกจ้างผ่านแบรนด์

3 คำศัพท์สำหรับนักการตลาดสายอินฟลูเอ็นเซอร์ ที่จะช่วยทำให้นักการตลาดทำงานได้ง่ายขึ้น

  1. Macro Influencer คือ กลุ่มคนที่มียอดติดตามอยู่ในระดับ 1 แสนคนขึ้นไป มีผู้ชมหรือคอนเท้นต์ที่ทำเป็นแบบเฉพาะกลุ่ม โดยส่วนใหญ่ Influencer กลุ่มนี้เหมาะสำหรับการใช้สร้าง Awareness ให้กับแบรนด์ที่เป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม
  2. Micro Influencer คือ กลุ่มคนที่มียอดติดตามตั้งแต่ 5,000 ถึง 1 แสนคน มีผู้ชมหรือคอนเท้นต์ที่ทำเป็นแบบเฉพาะกลุ่ม โดยส่วนใหญ่ Influencer กลุ่มนี้เหมาะสำหรับการใช้สร้าง Engagment ให้กับแบรนด์ที่เป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มมากกว่า Awareness ของแบรนด์
  3. Nano-Influencer คือ กลุ่มคนที่มียอดติดตามตั้งแต่ 1,000 ถึง 5,000 คน มีผู้ชมหรือคอนเท้นต์ที่ทำเป็นแบบเฉพาะกลุ่มเช่นกัน

เชื่อว่าหลายๆคนคงได้ศัพท์เอาไปใช้เพิ่มเติมกันไม่มากก็น้อยใช่มั้ยคะ ความจริงแล้วนอกเหนือจากศัพท์แล้วการอัพเดตเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่จะช่วยการทำงานก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน สำหรับทีมขายหรือใครที่กำลังมองหาตัวช่วยจัดการระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเราขอแนะนำ Oho Chat ระบบรวบรวมแชทครบจบในที่เดียวที่ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ทีมขายทำงานได้ง่ายขึ้นผ่านการติดแท็กลูกค้าเพื่อแยกให้มั่นใจว่าลูกค้าท่านใดกำลังอยู่ในขั้นตอนไหนของการขาย โอ้โหแชทยังคงช่วยให้การทำงานของฝ่ายอื่นๆง่ายขึ้นได้ผ่านการส่งแชทพร้อมติดโน๊ตเพื่อให้คนที่ได้รับแชทเห็นถึงปัญหาที่พวกเขาต้องแก้ด้วยเช่นกัน

สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักโอ้โหแชทเพิ่มเติมสามารถอ่านบทความเกี่ยวกับระบบของเราได้เพียงคลิกลิ้งค์ด้านล่าง

ถอดคำตอบผ่าน case study ‘OHO x FASTSHIP’ โอ้โหแชทช่วยได้ เปิดAPIเชื่อมบระบบที่คุณเลือก เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่าเดิม

ทำไม SMEs ไทยต้องให้ความสำคัญกับระบบ CRM

KPI vs OKR เจาะลึกความแตกต่างระหว่างสองตัวชี้วัดดัง

dashboardช่วยเก็บข้อมูลลูกค้า
พร้อมแล้ว เริ่มใช้งานฟรี!
ทดลองใช้ฟรี คลิก!
เชื่อมต่อเพจของคุณฟรีทันที!