‍

ปั้น SEO ให้ปัง เริ่มจาก Sitemap ที่เริ่ด แถม 6 เครื่องมือตรวจ SEO ฟรี อัปเดตปี 2024

‍


ในยุคดิจิทัลนี้ การมีเว็บไซต์เปรียบเสมือนหน้าร้านค้าออนไลน์ ดึงดูดลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก แต่แค่มีเว็บไซต์อย่างเดียวยังไม่เพียงพอ คุณต้องทำให้เว็บไซต์ของคุณ "เจอ" บนหน้าแรกของผลการค้นหา นั่นคือหัวใจสำคัญของการทำ SEO (Search Engine Optimization)

‍

SEO เปรียบเสมือนเข็มทิศ ชี้ทางให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏต่อสายตาของลูกค้าเป้าหมาย การทำ SEO ที่ดี เปรียบเสมือนการ ปั้น เว็บไซต์ของคุณให้ ปัง ดึงดูดลูกค้า เข้าชมเว็บไซต์ ศึกษาสินค้า หรือบริการ และตัดสินใจซื้อ

แล้วเริ่มต้นทำ SEO อย่างไรดี?

คำตอบคือ Sitemap เปรียบเสมือน แผนที่เว็บไซต์ ของคุณ บอก Search Engine ว่าเว็บไซต์ของคุณมีอะไรบ้าง หน้าเว็บไหนสำคัญ หน้าเว็บไหนใหม่ หน้าเว็บไหนอัปเดตล่าสุด ช่วยให้ Search Engine เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดัชนีเว็บไซต์ของคุณได้เร็วขึ้น และแสดงผลบนหน้าแรกของผลการค้นหา

แต่ Sitemap ที่ดี ต้องมาพร้อมกับเครื่องมือตรวจสอบ SEO ที่ดี เปรียบเสมือน เข็มทิศ บอกทิศทาง SEO ของคุณ วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน ของเว็บไซต์ ชี้ช่องโหว่ที่ต้องแก้ไข ช่วยให้คุณพัฒนา SEO ของเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความนี้ จะพาทุกท่านไป ปั้น SEO ให้ปัง เริ่ด เริ่มต้นง่ายๆ กับ Sitemap ที่ดี พร้อมแนะนำ 6 เครื่องมือตรวจสอบ SEO ทั้งฟรีและเสียเงิน  ฉบับอัปเดตปี 2024

‍

ทำไม Sitmap ของธุรกิจถึงสำคัญ ?

‍

1. ช่วยให้ Search Engine ค้นหาและจัดทำดัชนีหน้าเว็บของคุณได้ง่ายขึ้น: Sitemap เป็นเหมือนแผนผังของเว็บไซต์ของคุณ บอก Search Engine ว่ามีหน้าเว็บอะไรบ้าง อยู่ที่ไหน และมีความสัมพันธ์กันอย่างไร เมื่อ Search Engine เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณ พวกเขาจะสามารถค้นหาและจัดทำดัชนีหน้าเว็บของคุณได้ง่ายขึ้น

2. ช่วยให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ: Sitemap ไม่ได้แค่บอก Search Engine ว่ามีหน้าเว็บอะไรบ้าง แต่ยังสามารถบอก Search Engine เกี่ยวกับเนื้อหาของหน้าเว็บ โดยใช้คำอธิบายสั้นๆ หรือคำหลัก สิ่งนี้ช่วยให้ Search Engine เข้าใจเว็บไซต์ของคุณได้ดีขึ้น และแสดงผลในหน้าการค้นหาที่เกี่ยวข้อง

3. ช่วยให้ Search Engine เข้าใจความสำคัญของหน้าเว็บ: Sitemap สามารถบอก Search Engine ว่าหน้าเว็บใดมีความสำคัญ โดยใช้ priority tag สิ่งนี้ช่วยให้ Search Engine จัดอันดับหน้าเว็บของคุณในหน้าการค้นหาได้อย่างถูกต้อง

4. ช่วยให้ Search Engine ค้นหาหน้าเว็บใหม่ได้เร็วขึ้น: เมื่อคุณเพิ่มหน้าเว็บใหม่ในเว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถอัปเดต Sitemap ของคุณเพื่อแจ้ง Search Engine สิ่งนี้ช่วยให้ Search Engine ค้นหาหน้าเว็บใหม่ของคุณได้เร็วขึ้น และแสดงผลในหน้าการค้นหา

5. ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น: Sitemap ไม่ได้มีไว้สำหรับ Search Engine เท่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถใช้ Sitemap เพื่อค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณได้ Sitemap ที่ดีจะช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเสียเวลามองหา

‍


รูปแบบ Sitemap ที่ดีสำหรับธุรกิจ

‍

Sitemap ที่ดีควรมีโครงสร้างที่เรียบง่าย เข้าใจง่าย แสดงลำดับชั้นของหน้าเว็บไซต์อย่างชัดเจน ดังนี้

1. หน้าแรก (Homepage): หน้าแรกเปรียบเสมือนประตูสู่เว็บไซต์ของคุณ ควรมีเนื้อหาที่สื่อสารชัดเจน บอกผู้ใช้งานว่าเว็บไซต์ของคุณมีอะไรบ้าง นำเสนอสินค้า หรือบริการหลักๆ ของธุรกิจ

2. หมวดหมู่สินค้า/บริการ: แบ่งหมวดหมู่สินค้า หรือบริการ ของธุรกิจอย่างชัดเจน ลำดับชั้นของหมวดหมู่ควรสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน

3. หน้าสินค้า/บริการ: แต่ละหน้าสินค้า/บริการ ควรมีข้อมูลครบถ้วน อธิบายรายละเอียดสินค้า/บริการ ราคา รูปภาพ วิดีโอ รีวิว

4. หน้าอื่นๆ: เช่น หน้า "เกี่ยวกับเรา", หน้า "ติดต่อเรา", หน้า "บทความ" หน้า "FAQ"

‍

‍

‍

ผลลัพธ์ที่ได้

• ลูกค้าเข้าเว็บไซต์เพิ่มขึ้น: เมื่อเว็บไซต์ของคุณอยู่หน้าแรกของผลการค้นหา ผู้คนจะเห็นเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น โอกาสที่ลูกค้าจะคลิกเข้ามาก็มีมากขึ้น
  ‍
• ธุรกิจมียอดขายมากขึ้น: เมื่อมีลูกค้าเข้าเว็บไซต์มากขึ้น โอกาสที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าหรือบริการของคุณก็มีมากขึ้น
  ‍
• สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ลูกค้าหลายรายนิยมเข้าชมสินค้าและบริการผ่านเว็บไซต์ หากตัวเว็บมีการออกแบบที่ดี ใช้งานได้ง่าย ลื่นไหล ก็จะทำให้ลูกค้าติดใจในการเข้าเว็บไซต์โดยไม่จำเป็นต้องไปหน้าร้าน ปิดการขายได้ง่ายโดยไม่ต้องคุยกับแอดมิน
  ‍
  ‍

ต่อเนื่องจากการทำ sitemap ที่ดีแล้ว คือการบริการลูกค้าที่ดี ช่วยให้รักษาลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ที่เข้ามา
‍

   หัวใจสำคัญที่จะรักษา ลูกค้า ที่ได้มาจาก SEO ที่ดี ธุรกิจควรมี ระบบบริการลูกค้าหลังบ้าน ที่ครบ จบ ในที่เดียว พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้แอดมินหลังบ้านทำงานเป็นทีมได้ง่าย

ช่วยให้ตอบแชทลูกค้าเร็วขึ้น พร้อมวัดผลการทำงานของแอดมินได้ เพื่อช่วยให้สามารถตอบคำถามและแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เราขอแนะนำ


Oho Chat ระบบ Omnichannel จัดการแชท บริการลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถ ยกระดับการบริการลูกค้า ตอบแชทได้รวดเร็ว เพิ่มโอกาสในการ ปิดการขาย รักษามาตรฐานการดูแลลูกค้าของธุรกิจ และวัดผลจัดการทีมกำหนด KPI ให้ทีมงานได้ตรงตามเป้า ทดลองใช้ได้ฟรีแล้ววันนี้ www.oho.chat หรือคลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

นอกจากการทำ Sitemap ที่ดีแล้ว การใช้เครื่องมือตรวจสอบ SEO ที่มีประสิทธิภาพก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์คุณ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีในผลการค้นหา และสามารถดึงดูดทราฟฟิกได้มากขึ้น ในบทความนี้
‍

ต่อไปเราจะพาคุณไปสำรวจ 6 เครื่องมือตรวจสอบ SEO ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2024 ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมืออาชีพ และพาธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จในโลกออนไลน์

‍

เครื่องมือในการตรวจสอบ SEO ของเว็บไซต์

(เครื่องมือทั้งหมด 6 ตัวนี้เริ่มต้นใช้งานฟรี แต่สามารถเสียเงินซื้อแพ็กเกจเพิ่มเติมที่ช่วยให้เข้าถึงทุกฟีเจอร์ได้เพิ่ม )

Google Search Console

1. ใช้งานฟรีตลอด (Completely Free):
   Google Search Console เป็นเครื่องมือที่ Google ให้ใช้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน ซึ่งแตกต่างจากเครื่องมืออื่นๆ ที่อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้งานฟีเจอร์บางอย่างหรือทั้งหมด
   ‍‍
2. ข้อมูลโดยตรงจาก Google (Direct Data from Google)
   ข้อมูลทั้งหมดที่ Google Search Console ให้มานั้นมาจาก Google โดยตรง ทำให้ข้อมูลมีความแม่นยำและน่าเชื่อถือ เช่น ข้อมูลการคลิก อิมเพรสชัน และตำแหน่งการค้นหาที่ได้รับบน Google
   ‍
3. ‍การตรวจสอบและแก้ไขปัญหา SEO (SEO Issue Detection and Fixing):
   Google Search Console สามารถตรวจสอบปัญหาทางเทคนิคของเว็บไซต์ เช่น ปัญหาการรวบรวมข้อมูล (Crawling), ข้อผิดพลาดของหน้า (404 errors), ปัญหาเกี่ยวกับการใช้มือถือ (Mobile Usability) และแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น
   ‍‍
4. การส่งแผนผังเว็บไซต์ (Sitemap Submission)
   เจ้าของเว็บไซต์สามารถส่งแผนผังเว็บไซต์ (XML Sitemap) โดยตรงไปยัง Google ผ่าน Google Search Console ซึ่งช่วยให้เครื่องมือค้นหารวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
   ‍‍
5. การตรวจสอบประสิทธิภาพการค้นหา (Search Performance Monitoring):
   Google Search Console มีฟีเจอร์ในการติดตามประสิทธิภาพการค้นหาของเว็บไซต์ เช่น การวิเคราะห์คลิก (Clicks), อิมเพรสชัน (Impressions), อัตราการคลิกผ่าน (Click-Through Rate, CTR) และตำแหน่งเฉลี่ย (Average Position) สำหรับคำหลักที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยให้สามารถปรับปรุงกลยุทธ์ SEO ได้อย่างตรงจุด

SEMrush

‍

‍

1. การวิเคราะห์คู่แข่ง (Competitive Analysis)
   ‍เจ้าของธุรกิจสามารถใช้ SEMrush เพื่อวิเคราะห์เว็บไซต์ของคู่แข่ง เช่น การดูว่าคู่แข่งกำลังใช้คำหลักใดอยู่ มีแบ็คลิงก์จากที่ไหนบ้าง และมีการเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียอย่างไร ซึ่งช่วยให้สามารถพัฒนากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
   ‍
2. การตรวจสอบเว็บไซต์ (Site Audit)
   ‍SEMrush ช่วยตรวจสอบเว็บไซต์ของคุณเพื่อหาปัญหาที่อาจส่งผลต่อ SEO เช่น ข้อผิดพลาดทางเทคนิค การโหลดหน้าเว็บช้า และเนื้อหาที่ซ้ำกัน พร้อมกับแนะนำวิธีแก้ไข
   ‍
3. การติดตามอันดับ (Position Tracking)
   เจ้าของธุรกิจสามารถติดตามอันดับของคำหลักในผลการค้นหาของ Google และ Bing เพื่อดูว่ากลยุทธ์ SEO ของตนได้ผลหรือไม่
   ‍
4. การวิเคราะห์แบ็คลิงก์ (Backlink Analysis)SEMrush ช่วยตรวจสอบโปรไฟล์แบ็คลิงก์ของเว็บไซต์ว่ามีลิงก์จากที่ไหนบ้าง และมีลิงก์ใดที่มีคุณภาพหรือไม่ เจ้าของธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการวางแผนสร้างแบ็คลิงก์ที่มีคุณภาพ
   ‍
5. การสร้างเนื้อหา (Content Marketing)
   SEMrush มีเครื่องมือช่วยในการค้นหาไอเดียในการสร้างเนื้อหา การวิเคราะห์เนื้อหาของคู่แข่ง และการตรวจสอบว่าเนื้อหาของคุณมีการเข้าถึงมากน้อยแค่ไหน

Ahrefs

1. วิเคราะห์เว็บไซต์ (Site Explorer)  Ahrefs นับเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่วิเคราะห์เว็บไซต์ตัวเองและคู่แข่งได้แม่นยำและละเอียดที่สุด    ตรวจสอบและวิเคราะห์ปัญหาทางเทคนิคของเว็บไซต์ เช่น ข้อผิดพลาด HTTP การโหลดหน้าเว็บช้า และเนื้อหาที่ซ้ำกัน พร้อมกับแนะนำวิธีแก้ไขปัญหาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ SEO ของเว็บไซต์
   ‍
2. วิเคราะห์คีย์เวิร์ด (Keyword Explorer)
   Ahrefs มีเครื่องมือวิจัยคำหลักที่แข็งแกร่ง เช่น Keywords Explorer ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณการค้นหา ความยากของคำหลัก และแนวโน้มการค้นหา ทำให้สามารถเลือกคำหลักที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดการเข้าชมที่มีคุณภาพ
   ‍
3. ฐานข้อมูลแบ็คลิงก์ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุด (Comprehensive Backlink Database):
4. Ahrefs มีฐานข้อมูลแบ็คลิงก์ที่ใหญ่และอัปเดตอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถให้ข้อมูลที่ละเอียดและแม่นยำเกี่ยวกับโปรไฟล์แบ็คลิงก์ของเว็บไซต์ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถวิเคราะห์และปรับกลยุทธ์การสร้างแบ็คลิงก์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   ‍
5. การติดตามอันดับคำหลักที่แม่นยำ (Accurate Keyword Ranking Tracking):
   Rank Tracker ของ Ahrefs มีการอัปเดตข้อมูลอย่างสม่ำเสมอและแม่นยำ ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถติดตามอันดับของคำหลักที่สำคัญได้อย่างใกล้ชิด และเห็นการเปลี่ยนแปลงของอันดับในเวลาจริง แสดงข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของอันดับคำหลักในรูปแบบกราฟิกที่เข้าใจง่าย พร้อมกับมีฟีเจอร์ในการสร้างรายงานที่ปรับแต่งได้ ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวก

Ubersuggest

‍

1. การวิเคราะห์แบ็คลิงก์ (Backlink Analysis) Ubersuggest ช่วยในการวางแผนและสร้างกลยุทธ์ในการสร้างแบ็คลิงก์ที่มีคุณภาพ วิเคราะห์ข้อมูลส่วนนี้โดยเฉพาะ โดยจะข้อมูลที่บอกทั้งจำนวนของการถูก Backlinks กลับมารวมทั้งรายชื่อของเว็บไซต์ที่คอนเทนต์ของเราถูกอ้างอิงไป
   ‍
2. รองรับการทำ SEO ภาษาไทยได้ดี
   ‍เหมาะสำหรับธุรกิจที่ทำ SEO ภาษาไทย และต้องการหาเครื่องมือที่ใช้ค้นหาในภาษาไทย ช่วยในการทำ Keyword Research ที่จะมีพื้นที่ให้คนหาเฉพาะในประเทศไทยและภาษาไทยให้โดยเฉพาะ
   ‍
3. วิเคราะห์เว็บไซต์ (Site Audit / Competitor Analysis)

• ช่วยตรวจสอบสภาพการทำงานของเว็บไซต์ในด้านต่าง ๆ เช่น ความเร็วของเว็บไซต์, ข้อผิดพลาดในหน้าเว็บ, และปัญหาที่อาจมีผลกระทบต่อ SEO
• ให้คำแนะนำในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์
• ช่วยให้วิเคราะห์คู่แข่งได้ง่ายๆ   ผ่านการกรอก URL ที่ต้องการหรือการกรอกคีย์เวิร์ด

4. ใช้งานง่านเหมาะสำหรับมือใหม่
   ‍Ubersuggest นั้นใช้งานง่ายมาก ธุรกิจหรือนักการตลาดที่เพิ่งเริ่มเข้าวงการ SEO หรือทำเว็บไซต์ มักบอกต่อกัน เพราะหน้าตาที่ออกแบบให้เข้าใจง่าย    อีกทั้งราคาถูกกว่าเครื่องมือช่วยทำ SEO อื่นๆ ในท้องตลาด

SEOquake

1. การติดตั้งและใช้งานที่ง่ายดาย (Easy Installation and Usage)
   ‍SEOquake เป็นส่วนขยายของเบราว์เซอร์ที่ติดตั้งได้ง่ายบนเบราว์เซอร์ยอดนิยมเช่น Google Chrome, Mozilla Firefox, และ Opera หลังการติดตั้ง ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ได้ทันทีจากแถบเครื่องมือของเบราว์เซอร์ ทำให้การวิเคราะห์ SEO ทำได้อย่างรวดเร็วและสะดวก
   ‍‍
2. การวิเคราะห์ในหน้าเว็บแบบเรียลไทม์ (On-page SEO Analysis)
   SEOquake ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์หน้าเว็บในแบบเรียลไทม์ รวมถึงการตรวจสอบปัจจัยสำคัญของ SEO เช่น เมตาแท็ก (Meta Tags), คำหลัก (Keywords), ข้อความสำรองรูปภาพ (Alt Attributes) และลิงก์ภายใน (Internal Links) ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถปรับปรุงหน้าเว็บได้ทันที
   ‍‍
3. การตรวจสอบปริมาณการเข้าชมและการจัดอันดับ (Traffic and Ranking Data)
   SEOquake สามารถแสดงข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ การจัดอันดับในเครื่องมือค้นหา และข้อมูลเกี่ยวกับแบ็คลิงก์ได้โดยตรงจากเบราว์เซอร์ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์และเปรียบเทียบกับเว็บไซต์คู่แข่งได้อย่างง่ายดาย
   ‍
4. การสร้างรายงาน PDF (PDF Report Generation)
   SEOquake มีฟีเจอร์ในการสร้างรายงาน PDF ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำเสนอข้อมูลการวิเคราะห์ SEO ได้อย่างเป็นระบบและมืออาชีพ รายงานเหล่านี้สามารถใช้ในการประชุมหรือการนำเสนอต่อลูกค้าหรือทีมงานได้

SimilarWeb

1. การวิเคราะห์การเข้าชมเว็บไซต์ที่ครอบคลุม (Comprehensive Traffic Analysis)
   SimilarWeb ให้ข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ที่ครอบคลุม รวมถึงการวิเคราะห์แหล่งที่มาของการเข้าชม (เช่น การค้นหาโดยตรง, การอ้างอิง, การค้นหาทั่วไป, โซเชียลมีเดีย, และโฆษณา) ข้อมูลนี้ช่วยให้เจ้าของธุรกิจเข้าใจแนวทางการเข้าถึงเว็บไซต์ของผู้ใช้และสามารถปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   ‍‍
2. การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ (User Behavior Analysis)
   SimilarWeb ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้เข้าชม เช่น เวลาที่ใช้ในเว็บไซต์, จำนวนหน้าเว็บที่เข้าชมต่อครั้ง, และอัตราการตีกลับ ข้อมูลนี้ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้บนเว็บไซต์ได้
   ‍‍
3. การเปรียบเทียบเว็บไซต์ (Website Comparison)
   SimilarWeb มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบการเข้าชมและประสิทธิภาพของหลายเว็บไซต์ในอุตสาหกรรมเดียวกันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์คู่แข่งและการวางกลยุทธ์การแข่งขัน
   ‍‍
4. การวิเคราะห์ช่องทางการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing Channel Analysis)
   SimilarWeb ช่วยวิเคราะห์ช่องทางการตลาดดิจิทัลทั้งหมดที่ส่งผลต่อการเข้าชมเว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงการค้นหาทั่วไป (SEO), การค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย (PPC), โซเชียลมีเดีย, การอ้างอิง, และอีเมล ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถมองเห็นภาพรวมของกลยุทธ์การตลาดทั้งหมดและปรับปรุงการลงทุนในแต่ละช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   ‍‍
5. การเข้าถึงข้อมูลแอปพลิเคชัน (App Insights) นอกจากการวิเคราะห์เว็บไซต์ SimilarWeb ยังมีฟีเจอร์สำหรับการวิเคราะห์แอปพลิเคชันมือถือ ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดาวน์โหลด, การใช้งาน, และการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ในแอปพลิเคชัน ข้อมูลนี้มีความสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจที่มีหรือกำลังพัฒนาแอปพลิเคชัน

‍

‍

เครื่องมือช่วยทำ SEO แบบเสียเงิน

‍

• Screaming Frog SEO Spider: เครื่องมือวิเคราะห์ SEO ช่วยค้นหาปัญหา SEO บนเว็บไซต์ เช่น ลิงก์ที่เสีย หน้าเว็บที่โหลดช้า และเนื้อหาที่ซ้ำซ้อน
• Majestic: เครื่องมือวิเคราะห์ Backlink ช่วยวิเคราะห์ Backlink ของเว็บไซต์ แสดงข้อมูลเกี่ยวกับจำนวน Backlink คุณภาพของ Backlink และ Anchor Text
• Raven Tools: เครื่องมือวิเคราะห์ SEO ที่ครบวงจร ช่วยวิเคราะห์ Keyword Backlink การจัดอันดับ และ Traffic ของเว็บไซต์

เครื่องมือสำหรับวิเคราะห์เฉพาะด้าน

• Google PageSpeed Insights: เครื่องมือวิเคราะห์ความเร็วเว็บไซต์ แสดงข้อมูลเกี่ยวกับความเร็วเว็บไซต์ และแนะนำวิธีปรับปรุง
• Mobile-Friendly Test: เครื่องมือทดสอบว่าเว็บไซต์ของคุณใช้งานบนมือถือได้สะดวกหรือไม่
• GTmetrix: เครื่องมือวิเคราะห์ประสิทธิภาพเว็บไซต์ แสดงข้อมูลเกี่ยวกับความเร็วเว็บไซต์ และแนะนำวิธีปรับปรุง
  ‍

วิธีใช้เครื่องมือ SEO:

• เลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจของคุณ
• สมัครใช้งานเครื่องมือ เราแนะนำให้ทดลองใช้ฟรีก่อน
• ป้อน URL ของเว็บไซต์ของคุณ หรือใช้ Chrome extension ในการตรวจสอบ
• เชื่อมโยงกับบริการอื่นๆ เพื่อผลการวิเคราะห์ เช่น Google ads, Google search console เป็นต้น
• นำข้อเสนอแนะในการทำ Content และหา Keyword ที่น่าสนใจมาปรับใช้กับบทความและเว็บไซต์ของธุรกิจ
• วิเคราะห์ผลลัพธ์ และนำมาปรับใช้กับกลยุทธ์การตลาดให้ตรงเป้าหมายบริษัท
• หมั่นตรวจสอบผลลัพท์ SEO อยู่เสมอ เพื่อนวิเคราะห์และปรับได้อย่างรวดเร็ว

ข้อควรระวัง

• เครื่องมือ SEO เป็นเพียงเครื่องมือตรวจสอบ และเสนอแนะ ไม่ใช่สิ่งทดแทนการทำ SEO ทั้งหมด
• ไม่ควรพึ่งพาเครื่องมือ SEO มากเกินไป หรือไม่ควรพึ่งพาเพียงเครื่องมือเดียว เพราะเครื่องมือแต่ละตัวมีกระบวนการและวิธีคำนวณแตกต่างกัน
  ‍

สรุป Sitemap ดี SEO ปัง ลูกค้าพุ่ง ยอดขายปลิว!

Sitemap เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทาง SEO ของคุณ ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ โดดเด่น บนหน้าแรกผลการค้นหา ดึงดูด ลูกค้าเข้าเว็บไซต์มากขึ้น

พัฒนา SEO เพิ่มเติมด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ ขัดเกลาจุดอ่อน

อย่าลืม!  บริการลูกค้า คือหัวใจสำคัญ

ระบบหลังบ้าน ที่ดี  เทรนแอดมิน ที่พร้อมตอบคำถาม

เปลี่ยน  Lead  ให้เป็น  ยอดขาย

ปลุกพลังธุรกิจของคุณให้ปัง

‍

แหล่งข้อมูล:

• https://developers.google.com/search/docs/crawling-indexing/sitemaps/overview
• https://www.youtube.com/watch?v=BUr9eLVZJ9E
• https://developers.google.com/search/docs/crawling-indexing/sitemaps/build-sitemap
• https://moz.com/beginners-guide-to-seo
• https://stepstraining.co/search/content-tool-ep2-ubersuggest-for-seo

‍