เคล็ดลับการใช้ BCG Matrix วิเคราะห์ธุรกิจ ที่ชาว Digital Marketing ต้องรู้
BCG Matrix คืออะไร? สามารถนำมาประยุกต์ใช้วิเคราะธุรกิจได้ไหม? ชาว Digital Marketing ไม่รู้ไม่ได้แล้ว
Jes Jintawat
Marketing Intern


เคล็ดลับการใช้ BCG Matrix วิเคราะห์ธุรกิจ ที่ชาว Digital Marketing ต้องรู้

BCG Matrix คืออะไร? สามารถนำมาประยุกต์ใช้วิเคราะธุรกิจได้ไหม? ชาว Digital Marketing ไม่รู้ไม่ได้แล้ว

BCG Matrix หรือ Boston Consulting Group Matrix คือหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจที่บริษัทมักจะนำไปใช้ในการวิเคราะห์กลยุทธ์ในการวางตำแหน่งและจัดลำดับความสำคัญศักยภาพหรือ Porfolio ของสินค้าหรือบริการ โดยมีการใช้ 2 เกณฑ์ประกอบการพิจารณาคือ

  1. อัตราการเติบโตของตลาด (Market Growth Rate)
  2. ส่วนแบ่งตลาด (Relative Market Share)

แต่ก่อนเราจะไปเริ่มการประยุกต์ใช้ BCG Matrix ใน Digital Marketing เรามาทำความรู้จัก 4 กลุ่มที่เป็นองค์ประกอบหลักของ BCG Matrix กันก่อนดีกว่า ซึ่งมีดังนี้

ดาว (Stars) ⭐️⭐️⭐️

ดาว ถูกใช้เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ที่มี “ ส่วนแบ่งตลาดสูง “ (High Market Share) และ อัตราการเติบโตสูงเช่นกัน (High Growth) ดังนั้นสินค้าที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้มักจะต้องเผชิญกับ “ การแข่งขันสูงมากๆ “ ซึ่งทำให้ตลาดนี้มีจำนวนผู้เล่นอยู่มากและยากในการที่จะทำให้สินค้าของตัวเองนั้นประสบความสำเร็จ

ตัวอย่าง

Stars X iPhone

ประเมินสถานการณ์ (Market & Product Analysis)

  1. iPhone มีส่วนแบ่งการตลาดโทรศัพท์มือถือที่ “ สูงมากๆ “ อยู่แล้ว
  2. iPhone มีสถิติการเติบโตในช่วงหลังการเปิดตัวที่ “ สูงมากๆ “ และยอดขายในแต่ละปี “ สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง “ อีกด้วย

Stars X Digital Marketing

กลยุทธ์ทางการตลาดเชิงดิจิตอล (Digital Marketing)

  1. ลงทุนมากเป็นพิเศษในช่วงแรก ในส่วนของการโปรโมทตัวฟีจเจอร์ใหม่ๆ เพื่อเร่งการครอบครองส่วนแบ่งตลาดที่กำลังเติบโตให้ได้มากขึ้น
  2. การร่วมมือกัน (Collaboration) กับ Influencers ชื่อดัง เพื่อเพิ่มความตระหนัก (Awarness) ให้กับลูกค้าใหม่
  3. เน้นเรื่องของ Content Marketing เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

วัวนม (Cash Cows) 🐄🐄🐄

วัวนม ถูกใช้เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ที่มี “ ส่วนแบ่งตลาดสูง “ (High Market Share) แต่มีอัตราการเติบโตต่ำ (Low Growth) ดังนั้นสินค้าที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้มักจะ “ ไม่ต้องเผชิญ “ กับการแข่งขันที่สูงมากนัก เนื่องจากเป็นสินค้าที่ทำกำไรให้บริษัทอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้มี “ อัตราการเติบโตต่ำ “ ซึ่งทำให้บริษัทนั้นไม่ต้องลงทุนมากมายนัก เนื่องจากสถานภาพของตัวสินค้านั้นค่อนข้างมีความมั่นคงอยู่แล้ว เปรียบดังโคนมโตเต็มวัยที่ให้ผลผลิตได้อย่างต่อเนื่องแต่มีอัตราการเจริญเติบโตที่ “ ต่ำ ” แล้วนั่นเอง

ตัวอย่าง

Cash Cows X iPad

ประเมินสถานการณ์ (Market & Product Analysis)

  1. iPad มี ส่วนแบ่งการตลาดแทปเล็ต (Tablet) ที่ “ สูงมากๆ “ อยู่แล้ว
  2. iPad มีสถิติการเติบโตในช่วงหลังการเปิดตัวที่ “ ไม่สูงมาก “ และยอดขายในแต่ละปี “ ค่อนข้างคงที่ “ อีกด้วย

Cash Cows X Digital Marketing

กลยุทธ์ทางการตลาดเชิงดิจิตอล (Digital Marketing)

  1. พัฒนากระบวนการรักษาลูกค้า (Customer Retention) อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่ายังสามารถดึงลูกค้าเก่าไว้ได้ผ่านการทำ Online Content หรือ กลยุทธ์ SEO อย่างสม่ำเสมอ
  2. Cross-Selling สินค้าที่มีความเชื่อมโยงกันทางด้านการใช้งานเช่น Apple Pencil หรือ Magic Keyboard เพื่อให้เกิดการรับรู้ถึงความสำคัญของการใช้สินค้าในหมวดใกล้เคียง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้ไปในตัวอีกด้วย

เครื่องหมายคำถาม (Question Marks) ⁇ ⁇

เครื่องหมายคำถาม ถูกใช้เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ที่มี “ ส่วนแบ่งตลาดต่ำ “ (Low Market Share) แต่มีอัตราการเติบโตสูง (High Growth) ดังนั้นสินค้าที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้มักจะต้องเผชิญกับ “ อุปสรรคอันมากมาย “ เนื่องจากว่ามีคู่แข่งยักษ์ใหญ่ในตลาดอีกมาก อย่างไรก็ตามสินค้าในหมวดหมู่นี้ก็ยังคงแสดงอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหากได้รับการพัฒนาที่ถูกจุด

ตัวอย่าง

Question Marks X Airpods

ประเมินสถานการณ์ (Market & Product Analysis)

  1. Airpods มี ส่วนแบ่งการตลาดหูฟังไร้สายที่ “ ค่อนข้างต่ำ “ เนื่องจากคู่แข่งที่มีจำนวนมาก
  2. Airpods มีสถิติการเติบโตในช่วงหลังการเปิดตัวที่ “ สูง “ และยอดขายในแต่ละปี “ สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง “ อีกด้วย

Question Marks X Digital Marketing

กลยุทธ์ทางการตลาดเชิงดิจิตอล (Digital Marketing)

  1. ใช้การโฆษณาเชิงดิจิตอล (Digital Advertising) เพื่อสร้าง Awareness และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่
  2. วิเคราะห์ข้อมูล (Data) และ เสียงตอบรับ (Feedback) จากลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Platforms) หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เพื่อนำไปพัฒนาตัวสินค้าให้ตอบโจทย์มากขึ้น

สุนัข (Dogs) 🐶🐶🐶🐶

สุนัข ถูกใช้เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ที่มี “ ส่วนแบ่งตลาดต่ำ “ (Low Market Share) และ อัตราการเติบโตต่ำ (Low Growth) เช่นกัน ดังนั้นสินค้าที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้มักจะต้องเผชิญกับ “ ตลาดขาลง “ ที่มีความต้องการสินค้าต่ำ จึงทำให้สินค้านี้ถูกเรียกว่า Dogs ซึ่งต้องเจอกับการเติบโตที่ต่ำมากๆและอาจจะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนอีกต่อไป

3 สิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการบริหารจัดการสินค้าหรือบริการในหมวดหมู่นี้ คือ

  1. Product/Service Modification : การปรับปรุงเพื่อให้ตอบโจทย์ตลาดมากยิ่งขึ้น
  2. Discontinuation : ยุติการจำหน่ายหรือให้บริการเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากไปกว่านี้
  3. Repositioning : วางกลยุทธ์ให้ถูกจุดเพื่อจัดตำแหน่งของสินค้าหรือบริการให้ตอบสนองลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย

ตัวอย่าง

Dogs X iPod

ประเมินสถานการณ์ (Market & Product Analysis)

  1. iPod มี ส่วนแบ่งการตลาดเครื่องเล่นเสียงที่ “ ต่ำมากๆ “ ซึ่งในอดีตเคย “ สูง “
  2. iPod มีสถิติการเติบโตในช่วงหลังการเปิดตัวที่ “ เริ่มต่ำลงอย่างต่อเนื่อง “ และยอดขายในแต่ละปี “ ต่ำลงเรื่อยๆ “ เช่นเดียวกัน
  3. เนื่องจากโทรศัพท์มือถือ (Smart Phone) ในปัจจุบันนั้นมี “ ประสิทธิภาพสูงและครอบคลุมการใช้งาน “ ความนิยมของเครื่องเล่นจึง “ ต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ “

Dogs X Digital Marketing

กลยุทธ์ทางการตลาดเชิงดิจิตอล (Digital Marketing)

  1. ประเมินสถานการณ์และความเป็นไปได้ในการกลับมาของตัวสินค้า เพื่อวิเคราะห์ความคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือ Rebranding หรือไม่
  2. สร้างการสื่อสาร (Communication) กับลูกค้าที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการหยุดจำหน่ายสินค้า (Discontinuation) อย่างโปรงใสและมีความเห็นอกเห็นใจ (Emphaty)



สรุป BCG Matrix X Digital Marketing

การเติบโตและส่วนแบ่งการตลาดของทุกสินค้าและบริการนั้นย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการที่เราทำความเข้าใจกับ BCG Matrix และ ตัวแปรทั้ง 4 ที่เป็นองค์ประกอบของมันให้ดีนั้น ก็จะสามารถทำให้เราสามารถดึงศักยภาพของตัวสินค้าหรือบริการนั้นๆออกมาได้อย่างเต็มที่และถูกที่ถูกเวลาอีกด้วย

นอกจากนี้จากตัวอย่างที่เราได้ยกไปของ Apple จะเห็นได้ว่าการที่เราเข้าใจถึงสถานภาพของตลาดและอัตราการเติบโตของสินค้าและบริการของแต่ละตัว ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำให้ธุรกิจต่างๆวางกลยุทธ์ทางการตลาดเชิงดิจิตอล (Digital Marketing) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


ยิ่งไปกว่านั้น การประยุกต์ใช้ BCG Matrix ก็มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเชิงการจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) หรือ ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer Relationship Management) เป็นต้น

และหากพูดถึงระบบบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้า (Customer Relationship Management) ตัวช่วยที่จะทำให้ธุรกิจสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างตรงจุดและฉับพลันนั้นก็คือระบบหลังบ้านที่ช่วยดูแลความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้านั่นเอง ซึ่ง Oho Chat ก็เป็นระบบจัดการแชทบริการลูกค้า ที่รวบรวมทุกปัจจัยสำคัญไม่ว่าจะเป็นการรวมแชทลูกค้าไว้ในหน้าจอเดียว แชทบอท การรวมข้อมูลลูกค้า แดชบอร์ดและการจัดการติดตามเคส ไว้ในที่เดียว อีกทั้งยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ตรวจสอบวัดผการทำงานของ ทีมแอดมิน Sales และ Support เพื่อยกระดับ Customer Experience (CX) ทุกช่องทางให้ธุรกิจพร้อมก้าวสู่ยุค Marketing 5.0

โดยสรุปแล้ว BCG Matrix ไม่ใช่เครื่องมือในการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าโดยตรง อย่างไรก็ตามบริษัทและองค์กรต่างๆสามารถนำ BCG Matrix ไปประยุกต์ใช้กับการจัดสรรทรัพยากร (Resource Allocation) และการสร้างกลยุทธ์ต่างๆเพื่อเป็นสิ่งที่จะเสริมสร้างความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction) ผ่านการบริโภคสินค้าและบริการที่ได้รับการวางกลุยุทธ์อย่างตรงจุดนั่นเอง

ทดลองใช้ Oho Chat ได้แล้ววันนี้ ฟรี 14 วัน สมัครง่าย ติดตั้งเชื่อมต่อกับ Facebook, LINE OA, Instagram ได้ไม่จำกัด

พร้อมแล้ว เริ่มใช้งานฟรี!
ทดลองใช้ฟรี คลิก!
เชื่อมต่อเพจของคุณฟรีทันที!