4 เคล็ดลับ กลยุทธ์เพิ่มยอดขายธุรกิจสุขภาพ ความงาม ทันตกรรม โตเร็วกว่าคู่แข่ง ปี 2024
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจเพื่อสุขภาพมือใหม่ที่ต้องการอยู่รอดในการแข่งขันอันดุเดือดนี้ การใช้กลยุทธ์เดิม ๆ แบบการขายตัดราคาอาจยังไม่เพียงพอ
Jane Chalisa

4 เคล็ดลับ กลยุทธ์เพิ่มยอดขายธุรกิจสุขภาพ ความงาม ทันตกรรม โตเร็วกว่าคู่แข่ง ปี 2024

ปัจจุบันนี้ เทรนด์หนึ่งที่กำลังได้รับนิยมและมาแรงแซงทุกโค้งก็คือ ‘เทรนด์การรักสุขภาพ’ นั่นเอง จะเห็นได้ว่าผู้คนส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจเรื่องสุขภาพและความสวยงามมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร การออกกำลังกาย รวมถึงการทำหัตถการต่าง ๆ ธุรกิจสายสุขภาพและความงามจึงมีการเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่าในปี 2567 นี้ มูลค่าตลาดธุรกิจเพื่อสุขภาพในประเทศไทยจะเติบโตสูงขึ้นจากปีที่แล้วถึง 8-10% เลยทีเดียว ! และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอีกเรื่อย ๆ ในอนาคต

ในวันที่คลินิกทันตกรรมเปิดใหม่ถี่กว่าร้านตัดผม คลินิกเสริมความงามก็มีอยู่ทุกมุมถนน หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจเพื่อสุขภาพมือใหม่ที่ต้องการอยู่รอดในการแข่งขันอันดุเดือดนี้ การใช้กลยุทธ์เดิม ๆ แบบการขายตัดราคาอาจยังไม่เพียงพอ ทางที่ดีจะต้องใช้ทั้งกลยุทธ์ทางการตลาดและเทคโนโลยีเข้าช่วยเพื่อสร้างจุดเด่นของธุรกิจ คิดหาวิธีให้ลูกค้าเลือกเราแม้ในวันที่มีคู่แข่งอีกนับพันรออยู่ก็ตาม

บทความนี้ เรารวบรวมมาให้แล้วทั้งหมด 4 กลยุทธ์ ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายแก่ธุรกิจสายสุขภาพ ความงาม และทันตกรรม สามารถโตเร็วกว่าคู่แข่งในปี 2024 ได้อย่างแน่นอน แบบเข้าใจง่าย รวบรัดจบในที่เดียว !

1. สร้างภาพจำคลินิกให้ปัง โดดเด่นกว่าคู่แข่ง เห็นแล้วต้องจำได้

ผู้คนมักเลือกใช้แบรนด์ที่พวกเขาเห็นและจดจำได้ก่อนเสมอ หากเราสามารถสร้างการรับรู้ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งได้ ลูกค้าจะรู้สึกผูกพันธ์กับเราโดยอัตโนมัติแม้จะยังไม่เคยลองใช้บริการของเราเลยก็ตาม

การสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) หรือการสร้างภาพจำจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะเปรียบเสมือนตัวตนของธุรกิจ ช่วยให้ลูกค้าจดจำและแยกแยะธุรกิจของคุณออกจากคู่แข่ง คุณจะต้องหาให้เจอว่าจุดแข็งของแบรนด์ที่ต้องการนำเสนอคืออะไร แบรนด์ของคุณเหมาะสมกับภาพลักษณ์แบบไหน ควรเลือกซัก 1 จุดเด่นเพื่อเป็น Highlight ของแบรนด์โดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น

จากนั้นนำเสนอออกมาให้น่าสนใจและตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ท่ามกลางตัวเลือกมากมาย ‘ภาพจำ’ คือสิ่งที่จะช่วยทำให้พวกเขานึกถึงแบรนด์ของคุณเป็นอันดับแรก

2. สร้าง Customer Experience ที่ดี ได้ผลเกินคาด !

Customer Experience (ประสบการณ์ลูกค้า) คือ สิ่งที่ลูกค้ารู้สึกหรือตอบสนองเมื่อได้ใช้บริการของแบรนด์ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่ก่อนใช้บริการ ระหว่างใช้บริการ จนไปถึงหลังการใช้บริการ

ในยุคที่ลูกค้าจำนวนมาก ’ยอมจ่ายแพงขึ้น’ เพื่อ ‘รับประสบการณ์ที่ดีกว่า’ Customer Experience จึงถือเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญมากว่าลูกค้าจะหันไปใช้บริการเจ้าไหนมากกว่ากัน ซึ่งการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดีจะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ เกิดการจดจำแบรนด์ สร้างความภักดี และยังเพิ่มโอกาสในการกลับมาใช้บริการซ้ำอีกด้วย ช่วยเพิ่มยอดขายคลินิกได้อย่างแน่นอน โดยการสร้าง Customer Experience สามารถทำได้หลากหลายวิธีด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น

คลิกเพื่ออ่าน >>> รวม 10 เทรนด์ Customer Experience ที่จะเกิดขึ้นในปี 2024 รู้ก่อน รวยก่อน

3. รักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ด้วย Personalized การตลาดแบบเฉพาะบุคคล

รู้หรือไม่? จากการศึกษาของ Bain & Company พบว่าลูกค้าเก่ามีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายมากกว่าลูกค้าใหม่ถึง 66%

การตลาดแบบ Personalized Marketing จึงจำสำคัญเป็นอย่างมาก ! เพราะเป็นการตลาดเฉพาะบุคคล โดยแบรนด์หรือธุรกิจจะต้องทำการรวบรวมข้อมูลของลูกค้ามาทำการวิเคราะห์ เพื่อนำเสนอสิ่งที่เหมาะสมกับความสนใจของลูกค้าให้ได้มากที่สุด สามารถนำไปใช้ได้ดีในการรักษาฐานลูกค้าเก่าที่เรามีข้อมูลอยู่แล้วนั่นเอง ตัวอย่างการนำไปใช้

ซึ่งกลยุทธ์นี้เหมาะสมกับกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง เพราะลูกค้าสายสุขภาพมักต้องการการดูแลที่ต่อเนื่อง แถมยังมีกำลังในการจ่ายที่สูง หากเราทำให้ลูกค้าเก่าติดใจและดึงให้อยู่กับเรานานขึ้นได้ ก็จะทำให้แบรนด์ไม่ต้องเปลืองงบประมาณเพื่อหาลูกค้าใหม่ อยู่กันยาว ๆ ไปเลย

โดยการจะทำ Personalized Marketing ที่ดีได้นั้น ธุรกิจจำเป็นต้องมีการเก็บข้อมูล CRM ลูกค้าที่ชัดเจนและละเอียดมากพอเพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์  Oho Chat ของเราเป็นหนึ่งในระบบจัดการแชทบริการลูกค้าพร้อม CRM ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถเก็บข้อมูล แบ่งตามความความสนใจ ช่วยติดแท็ก แยกประเภท ทำให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นผ่านการเก็บข้อมูลจากระบบแชท ช่วยยกระดับธุรกิจคุณให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น

4. ใช้ระบบหลังบ้านที่ดี เสริมความแข็งแกร่งให้ทีมงาน เซลล์ ทีมการตลาด กระตุ้นให้ได้ยอดขายตรงเป้า

การมีระบบหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพเปรียบเสมือนรากฐานธุรกิจที่มั่นคง ต้องคำนึงไว้เสมอว่าทีมงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเซลหรือทีมการตลาด คือด่านหน้าที่จะนำพาลูกค้ามาสู่ธุรกิจ หากมีระบบหลังบ้านที่ดีจะช่วยให้การทำงานของทีมง่ายยิ่งขึ้น ทีมงานมีเวลาไปโฟกัสที่การดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตประสบความสำเร็จและเกิดความมั่นคงได้ในระยะยาว นอกจากนั้นยังป้องกันปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นกรณีที่เซลล์หรือแอดมินอู้ ตอบลูกค้าได้ไม่ตรงตามมาตรฐานบริษัท ส่งผลให้ภาพลักษณ์แบรนด์เสียหายจนคนรีวิวแย่เป็นวงกว้างปากต่อปาก ระบบหลังบ้านที่ดีจึงต้องมีการวัดผลอัตราการตอบกลับและตัวชี้วัดการทำงานของทีมงานอย่างละเอียดเพื่อรักษามาตรฐานให้ลูกค้ารู้สึกไว้วางใจได้

การแข่งขันในวงการนี้อาจไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากคุณสามารถหาตัวช่วยที่เหมาะสมและทำให้ธุรกิจของคุณอยู่เหนือกว่าคู่แข่งได้ ปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีมากมายที่จะสามารถช่วยสร้างระบบหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจของคุณ ตัวอย่าง 2 ระบบยอดนิยม ได้แก่

Oho Chat : เป็นระบบจัดการแชทบริการลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพทีมแอดมิน ครบ จบในที่เดียว เราฟีเจอร์มากมายที่ตอบโจทย์ธุรกิจเพื่อสุขภาพในยุคดิจิทัล

Doctor Ease : ระบบบริหารคลินิกออนไลน์ คลินิกความงาม รองรับทุกส่วนงาน ตั้งแต่แผนกต้อนรับ ห้องตรวจ สั่งยา สต็อก ไปจนถึงแคชเชียร์ ง่าย ครบ จบในที่เดียว


สุดท้ายนี้ ธุรกิจเพื่อสุขภาพที่จะสามารถโตเร็วกว่าคู่แข่งได้ ต้องเรียนรู้ที่จะใช้ทั้งกลยุทธ์ทางการตลาดและเทคโนโลยีเข้าด้วยกันเพื่อสร้างข้อได้เปรียบของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพจำ, การสร้าง Customer Experience ที่ดี, การทำ Personalized Marketing และการสร้างระบบหลังบ้านที่ดี สิ่งเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญในการช่วยเพิ่มยอดขายทั้งหมด

แต่ถ้าหากคุณกำลังมองหาเทคโนโลยีเพื่อช่วยจัดการระบบหลังบ้าน แล้วยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร สามารถทดลองใช้ Oho Chat ได้ฟรีนานถึง 14 วัน หรือหากสนใจใช้งานจริง แพ็คเกจราคาเริ่มต้นก็อยู่ที่ 500 บาท/เดือนเท่านั้น แค่คลิกเดียว แล้วยกระดับธุรกิจไปพร้อมกับเรา

ทดลองใช้ Oho Chat ได้แล้ววันนี้ฟรี 14 วัน คลิก

พร้อมแล้ว เริ่มใช้งานฟรี!
ทดลองใช้ฟรี คลิก!
เชื่อมต่อเพจของคุณฟรีทันที!